javascript の実行を許可してください。

CHOCOTABI SAITAMA

บล็อกท่องเที่ยว

ผ่อนคลายจิตใจและร่างกายของคุณท่ามกลางวัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์ของจิจิบุ ~ มาพักที่จิจิบุ แล้วเพลิดเพลินกับอาหารและเครื่องดื่มรสเลิศกันเถอะ~

พื้นที่จิจิบุซึ่งสามารถเข้าถึงได้ภายในเวลาประมาณ 80 นาทีโดยรถไฟด่วนจากใจกลางเมือง ตั้งอยู่ทางตะวันตกของจังหวัดไซตามะ และบริเวณรอบสถานีจิจิบุเป็นสถานที่ซึ่งวัฒนธรรมเก่าแก่อันดีงามยังคงอยู่
เต็มไปด้วยถนนช้อปปิ้งและศาลเจ้าที่มีมาตั้งแต่สมัยก่อน

 
บางท่านอาจเคยมาที่นี่เพื่อสัมผัสวัฒนธรรมญี่ปุ่นและทิวทัศน์อันงดงาม เช่น เทศกาลกลางคืนจิจิบุที่จัดขึ้นในฤดูหนาว หรือทุ่งพิงค์มอสที่สวนฮิสึจิยามะซึ่งทั่วทั้งงพื้นที่ถูกย้อมไปด้วยสีชมพูในฤดูใบไม้ผลิ

 
พื้นที่จิจิบุมีภูมิประเทศและธรรมชาติอันเป็นเอกลักษณ์ ซึ่งประกอบด้วยภูเขาต่างๆ เช่น ภูเขาบุโคและภูเขาเรียวกามิ แอ่งน้ำจิจิบุ และแม่น้ำอาราคาวะ และได้บ่มเพาะวัฒนธรรมอาหารที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว
ร้านอาหารที่ใช้วัตถุดิบจากท้องถิ่นที่อุดมไปด้วยธรรมชาติตั้งเรียงรายรอบๆถนน บัมบะ-โดริ ซึ่งมีบรรยากาศแบบย้อนยุคและอยู่ใกล้กับสถานีรถไฟ

 
การเดินทางไปจิจิบุสามารถเดินทางได้อย่างสะดวกสบายในการโดยสารรถไฟด่วนพิเศษเซบุจากสถานี
อิเคะบุคุโระ ไปลงที่สถานที่สุดท้ายคือสถานีเซบุจิจิบุ
ใช้เวลาเดินประมาณ 10 นาทีจากสถานีเซบุจิจิบุไปยังไปยังถนนบัมบะ-โดริ

วัฒนธรรมอาหารที่หล่อเลี้ยงด้วยธรรมชาติของจิจิบุ

 
ร้านอาหารแรกที่เราจะแนะนำในครั้งนี้คือร้านอาหารอิตาเลียน “cucina salve(คูจิน่า ซัลเว)” บนถนนบัมบะ-โดริ ร้านตั้งอยู่ที่ชั้น 1 ของ “Chichibu Omotesando Lab.” ซึ่งเป็นอาคารที่เป็นบ้านแบบสมัยเก่าที่ได้รับการปรับปรุงใหม่
 
ที่นี่เชฟให้ความสำคัญเป็นอย่างมากกับการใช้วัตถุดิบแบบไร้สารปรุงแต่ง เป็นร้านอาหารที่ใช้วัตถุดิบออแกนิก โดยเชฟเองได้หว่านเมล็ดพืชในทุ่งนาเพื่อปลูกผักออร์แกนิก เก็บเกี่ยวข้าวสาลีเพื่อทำแป้ง และดูแลไก่เพื่อเลี้ยงไข่
 
เชฟที่ศึกษาอาหารจากทั่วโลก นำเสนออาหารที่ใช้วัตถุดิบของจิจิบุด้วยความมั่นใจว่าไม่เป็นรองใคร เหตุผลที่พวกเขามั่นใจในส่วนผสมนั้นเป็นเพราะสภาพอากาศที่เป็นเอกลักษณ์ของแอ่งจิจิบุ
 
พื้นที่จิจิบุมีอากาศร้อนในฤดูร้อน โดยมีอุณหภูมิสูงเกือบ 40 องศา แต่ในฤดูหนาวนั้นอุณหภูมิต่ำสุดมักจะลดลงต่ำกว่า -10 องศา ด้วยอุณหภูมิต่ำสุดและสูงสุดตลอดทั้งปีมีความแตกต่างกันมากประกอบกับปริมาณแสงแดดช่วยให้พืชผลต่างๆ เช่น ส้มและแอปเปิ้ลเจริญเติบโตได้ดี

เชฟใช้เวลาหลายปีในการค้นคว้าส่วนผสมที่เหมาะกับสภาพอากาศ และตอนนี้ปลูกผักมากมายถึง 150 สายพันธุ์ วัตถุดิบที่คัดสรรมาอย่างดีเหล่านี้มีอยู่ในเมนูอาหารของทางร้าน
 
นอกจากวัตถุดิบออร์แกนิกแล้ว ภายในร้านยังมีการออกแบบผนังที่ได้รับแรงบันดาลใจจากจิจิบุ โต๊ะทำมือ และผลงานศิลปะที่สร้างจากเศษไม้ ซึ่งทั้งหมดนี้จัดแสดงไว้ราวกับงานศิลปะ ความมุ่งมั่นของเชฟต่อความยั่งยืนปรากฏเด่นชัดอยู่ในร้านอาหาร ทำให้ที่นี่เป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับการมาลิ้มลองอาหารของจิจิบุ
 
ลองไปเที่ยวชมและเพลิดเพลินกับอาหารจิจิบุกันดูไหมคะ?

 

<cucina salve>
http://www.salvagest.jp

ต่อไปเราจะมาแนะนำไลฟ์คิชเช่นและคาเฟ่ 「HIMIDORI」 (ฮิมิโดริ) ในช่วงกลางวันจะเป็นพื้นที่คาเฟ่ที่มีบรรยากาศผ่อนคลาย แต่ในตอนกลางคืนจะเปลี่ยนเป็นเเชฟส์เทเบิ้ล (Chef’s Table) ที่คุณสามารถเพลิดเพลินกับอาหารแบบคอร์สที่จำกัดเพียง 10 ที่นั่งต่อวัน คุณสามารถเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์ทั้งทางสายตาและการดมกลิ่นในขณะที่เชฟแสดงทักษะการทำอาหารให้ชมอย่างใกล้ชิดตรงหน้าตรงที่นั่งเคาน์เตอร์
 
เมนูอาหารอิตาเลียนทั้งหมดของร้านไม่ยึดติดกับประเภทอาหารหรือวิธีการปรุงอาหารที่มีอยู่ ช่วยให้คุณเพลิดเพลินกับอาหารต้นตำรับและความสร้างสรรค์ของเชฟ
ไวน์ธรรมชาติที่มีให้เลือกหลายสิบชนิดก็เป็นอีกหนึ่งเสน่ห์ของทางร้าน และเนื่องจากสถานที่ตั้งอยู่ใกล้กับศาลเจ้าจิจิบุและหอประชุมเทศกาลจิจิบุ ขอให้ลองแวะมาระหว่างท่องเที่ยว
ลองมาเพลิดเพลินกับอาหารค่ำ ลิ้มรสไวน์ที่มีให้เลือกมากมายพร้อมกับอาหารแสนอร่อยกันค่ะ
 
<Chef’s Table & Café HIMIDORI>
https://www.himidori.jp

เพลิดเพลินไปกับร้านสาเกในจิจิบุ!
 
พื้นที่จิจิบุเป็นที่รู้จักในฐานะดินแดนสาเกที่ผลิตเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 8 ประเภท รวมถึงสาเก เบียร์ ไวน์ และวิสกี้ จิจิบุยังมีชื่อด้านการผลิตอาหารหมัก เช่น มิโซะ ซีอิ๊ว และชีส ซึ่งเหมาะเป็นของว่างที่ทานคู่กับแอลกอฮอล์ได้ดีเยี่ยม ทำให้เป็นสถานที่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเพลิดเพลินกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
 
รอบๆ ถนนบัมบะ-โดริ คุณสามารถเพลิดเพลินกับบาร์ฮอปปิ้งไปตามบาร์ต่างๆ ได้ ลองมาเพลิดเพลินกับการดื่มพร้อมสัมผัสวัฒนธรรมของจิจิบุกันไหมคะ
 
“MAHOLLO BAR” เป็นร้านคราฟต์เบียร์โดยเฉพาะแห่งแรกในจิจิบุที่คุณสามารถดื่มคราฟต์เบียร์สดใหม่จากโรงเบียร์จิจิบุ มีคราฟต์เบียร์ให้เลือกถึง 10 ประเภท ทั้งเบียร์เมนูปกติและเบียร์ออกใหม่
เมนูมีหลากหลาย เช่น เบียร์กินเนสส์ แอปเปิลไซเดอร์ และอื่นๆ อีกมากมาย
พวกเขาใส่ใจเป็นอย่างยิ่งในการเสิร์ฟเบียร์แต่ละชนิดในสภาพที่ดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ทำให้ที่นี่เป็นสถานที่สำหรับให้ผู้คนได้เชื่อมสัมพันธ์กันผ่านคราฟต์เบียร์ อย่าลืมลองชิมอาหารพิเศษในท้องถิ่น อย่างมันฝรั่งมิโซะ และอาหารเรียกน้ำย่อยอื่นๆ
 
<MAHOLLO BAR>
https://www.chichibu-lab.jp/index.php/shop/mahollobar/

ต่อไปที่เราจะแนะนำคือ “WINEBAR Shoraku” ร้านโซบะแห่งนี้คือร้านโซบะที่มีมายาวนานในจิจิบุ ซึ่งเปิดบริการเป็นร้านโซบะในตอนกลางวันและเป็นบาร์ไวน์ในตอนกลางคืน เจ้าของเป็นซอมเมอลิเยร์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านไวน์ที่ได้รับการรับรอง และที่นี่เป็นร้านที่สามารถเพลิดเพลินกับอาหารต้นตำรับโดยเน้นที่รสชาติและไวน์ที่คัดสรรมาอย่างดี
เมนูอาหารมีให้เลือกมากมาย และในช่วงเวลาบาร์คุณสามารถเพลิดเพลินกับมิโซะหมูของขึ้นชื่อในจิจิบุ เทมปุระ โซบะและอุด้ง
 
คุณสามารถเพลิดเพลินกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และอาหารกูร์เมต์ของจิจิบุได้ในบรรยากาศสบายๆและตกแต่งภายในสไตล์ญี่ปุ่นสมัยใหม่
 
<WINEBAR Shoraku>
http://winebar-shouraku.com/
 
มีจุดอื่นๆ อีกมากมายในพื้นที่ที่สามารถเพลิดเพลินกับสาเกและวิสกี้ได้ ดังนั้นอยากขอให้ลองแวะไปที่ร้านตามความชอบของคุณ

เพลิดเพลินไปกับวัฒนธรรมญี่ปุ่นขณะเข้าพักที่จิจิบุ!
 
เมื่อคุณมาที่จิจิบุ ทำไมไม่ลองสัมผัสวัฒนธรรมท้องถิ่นของเมืองวัดซึ่งครั้งหนึ่งเคยเจริญรุ่งเรืองในฐานะแหล่งผลิตผ้าไหมล่ะ?
 
“NIPPONIA Chichibu Monzen-machi” เป็นที่พักที่ได้รับการปรับปรุงใหม่จากบ้านญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมอายุกว่า 100 ปี ภายในอาคารสร้างความสมดุลระหว่างญี่ปุ่นในอดีตและปัจจุบัน โดยผนังและเพดานคลาสสิกยังคงรูปลักษณ์ดั้งเดิมเอาไว้ ในขณะที่โถงทางเดินและอ่างอาบน้ำไม้ไซเปรสได้รับการปรับปรุงให้ทันสมัยเพื่อความสะดวกสบาย
 
การออกแบบตกแต่งภายในผสมผสานเฟอร์นิเจอร์ร่วมสมัยและแบบดั้งเดิมไว้อย่างลงตัว มอบประสบการณ์แปลกใหม่ให้ผู้เข้าพักรู้สึกเหมือนได้ย้อนเวลากลับไปในอดีต ลองมาสัมผัสวัฒนธรรมญี่ปุ่นแบบย้อนยุคดูไหมคะ
 
<NIPPONIA Monzen-machi>
https://nipponia-chichibu.jp

เรามีแผนกิจกรรมพิเศษที่คุณสามารถเพลิดเพลินกับอาหารกูร์เมต์ของจิจิบุ ไม่ว่าจะเป็นอาหารค่ำในร้านอาหารที่เราแนะนำในครั้งนี้และการเที่ยวบาร์ฮอปปิ้ง ลองมาเที่ยวกันให้ได้นะคะ
 
“CHICHIBU Premium Dining”
วันและเวลา: 27 ตุลาคม (วันศุกร์), 28 ตุลาคม (วันเสาร์) และ 29 ตุลาคม (วันอาทิตย์)
เวลา 12:00-19:00 น. 2023
สถานที่หลัก: ถนนบัมบะ-โดริ เมืองจิจิบุ
คลิกที่นี่เพื่อดูรายละเอียด:
https://www.chichibu-omotenashi.com/premiumdining/
 
เป็นอย่างไรบ้างคะ? สำหรับทริปเที่ยวจิจิบุ
หากอยากเดินทางระยะสั้นๆออกไปนอกโตเกียว คุณจะได้พบสถานที่ที่สามารถเพลิดเพลินกับวัฒนธรรมญี่ปุ่น อาหารท้องถิ่นอันเป็นเอกลักษณ์ และเครื่องดื่มสาเก

ถนนบัมบะของจิจิบุที่เราแนะนำในครั้งนี้คือทางเข้าสู่ศาลเจ้าจิจิบุ ว่ากันว่าศาลเจ้าจิจิบุจะนำพรต่างๆ เช่น ความสำเร็จทางวิชาการ ความสำเร็จในการสอบผ่าน และความเจริญรุ่งเรืองมาสู่ลูกหลาน
อย่าลืมแวะมาสักการะกันนะคะ

กลับไปยังลิสต์