ทำให้ร่างกายของคุณแข็งแรงและสวยงามจากภายในสู่ภายนอกด้วยวัฒนธรรมการหมักที่มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร ~ มาเพลิดเพลินกับประสบการณ์การหมักในจิจิบุกันเถอะ! ~
พื้นที่จิจิบุซึ่งสามารถเดินทางไปได้ในเวลาประมาณ 80 นาที โดยรถไฟด่วนจากใจกลางเมืองนั้นตั้งอยู่ในส่วนทิศตะวันตกของจังหวัดไซตามะ ประกอบด้วยเมืองจิจิบุ เมืองโยโคเซะ เมืองมินาโนะ เมืองนางาโทโระ และเมืองโอกาโนะ ที่ซึ่งวัฒนธรรมดั้งเดิมยังคงมีชีวิตอยู่ ภูมิประเทศและธรรมชาติที่เป็นเอกลักษณ์ เช่น ภูเขาบุโคะกับภูเขาเรียวคามิ ลุ่มน้ำจิจิบุ และแม่น้ำ Arakawa ได้หล่อเลี้ยงวัฒนธรรมอาหารที่เป็นเอกลักษณ์เอาไว้ และหนึ่งในนั้นคือ “วัฒนธรรมการหมัก”
การหมักเป็นวัฒนธรรมทางอาหารที่สำคัญในญี่ปุ่น อาหารหมักของญี่ปุ่น เช่น สาเกและมิโซะมี “โคจิ” ซึ่งทำโดยการเพาะเชื้อรา aspergillus oryzae ในภาษาญี่ปุ่นเรียกว่า “โคจิคิน” ซึ่งเป็นหัวเชื้อโคจิบนข้าว กล่าวกันว่ามีโคจิคินที่มีชีวิตอยู่หลายร้อยล้านตัวต่อหนึ่งกรัม และโคจิคินเหล่านี้จะดึงเอารสอูมามิและกลิ่นหอมของส่วนผสมออกมา ทั้งยังช่วยส่งเสริมสุขภาพและความงามอีกด้วย กล่าวกันว่าโคจิยังมีประโยชน์ต่อสุขภาพ เช่น ช่วยย่อยอาหารและปรับปรุงการทำงานของระบบทางเดินอาหาร รวมทั้งช่วยในการล้างพิษด้วยการกำจัดสารพิษออกจากร่างกาย
จิจิบุเป็นแหล่งผลิตอาหารหมักหลากหลายอย่าง เช่น ไวน์ มิโซะ และชีส ทั้งยังผลิตสินค้าขึ้นชื่อในท้องถิ่นมากมาย
จิจิบุเจริญรุ่งเรืองในด้านการปลูกองุ่นคุณภาพสูงที่จำเป็นสำหรับการผลิตไวน์ ซึ่งเป็นเครื่องดื่มที่เกิดจากการหมักให้น้ำตาลที่มีอยู่ในน้ำองุ่นเปลี่ยนเป็นแอลกอฮอล์
เนื่องจากจิจิบุมีอุณหภูมิที่แตกต่างกันอย่างมากระหว่างกลางวันกับกลางคืน และมีปริมาณน้ำฝนที่น้อย พันธุ์องุ่น เช่น องุ่นยุโรปและโคชูซึ่งเป็นวัตถุดิบสำหรับทำไวน์จึงเติบโตได้ดีในพื้นที่นี้ และมีโรงบ่มไวน์ที่ผลิตไวน์อันมีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใครกระจายอยู่ทั่วบริเวณ
และรอบๆ ภูเขาบุโคะที่ตั้งตระหง่าเป็นสัญลักษณ์ของจิจิบุนั้น มีการปลูกถั่วเหลืองและข้าวบาร์เลย์คุณภาพสูงมาตั้งแต่สมัยก่อน มิโซะเป็นอาหารหมักที่ทำจากถั่วเหลืองเป็นหลักและเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ในอาหารญี่ปุ่น หลายท่านอาจเคยทานซุปมิโซะที่ร้านอาหารญี่ปุ่น กล่าวกันว่าในอดีตชาวนาทุกคนเคยทำมิโซะข้าวบาร์เลย์แบบโฮมเมดทานกันเองอีกด้วย
ในครั้งนี้เราจะมาแนะนำสถานที่ที่คุณสามารถเพลิดเพลินกับวัฒนธรรมการหมักของจิจิบุ
ออกเดินทางจากโตเกียวไปไม่ไกลแล้วไปสัมผัสประสบการณ์การหมักในจิจิบุซึ่งดีต่อสุขภาพและความงามพร้อมกับรายล้อมไปด้วยธรรมชาติกันเถอะ!
ไวน์หอมกรุ่นที่บ่มในถังวิสกี้
<โรงบ่มไวน์จิจิบุฟาร์มเมอร์ อุซางิดะ ไวนารี่>
สถานที่แรกที่เราไปเยี่ยมชมคือ “อุซางิดะ ไวนารี่”
โรงบ่มไวน์แห่งนี้อยู่ในพื้นที่โยชิดะของเมืองจิจิบุ ซึ่งมีสวนผลไม้มากมายตั้งอยู่เรียงราย ใช้เวลาเดินทางโดยรถยนต์ประมาณ 30 ถึง 40 นาที จากสถานี Seibu Chichibu
ไร่องุ่นที่สวยงามซึ่งกลมกลืนไปกับภูเขาที่เรียงรายในจิจิบุมีพื้นที่ประมาณ 2.0 เฮกตาร์ หากทำการจองล่วงหน้าคุณสามารถเยี่ยมชมฟาร์มและโรงงาน และจะได้เห็นวิธีการทำไวน์อีกด้วย นอกจากนี้ยังมีมุมชิมรสชาติที่คุณสามารถลิ้มรสและเปรียบเทียบไวน์ต่างๆ ที่ผลิตที่นี่และหาซื้อไวน์ที่คุณชื่นชอบได้
ที่อุซางิดะ ไวนารี่ปลูกองุ่นแบบแนวพุ่มไม้เป็นรั้วซึ่งเป็นแบบเดียวกับไร่ในประเทศยุโรป อย่างเช่น ฝรั่งเศส นอกจากพันธุ์องุ่นที่เป็นที่รู้จักในระดับสากลอย่างชาร์ดอนเนย์แล้ว หนึ่งในลักษณะสำคัญของที่นี่คือพวกเขากำลังมุ่งเน้นไปที่การปลูกองุ่นลูกผสม “Kai Blanc”ที่มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใครโดยใช้ประโยชน์จากสภาพอากาศของจิจิบุ
ไวน์ซึ่งถูกผลิตด้วยวิธีการที่หาได้ยากในญี่ปุ่น เช่น การบ่มในถังวิสกี้และเพิ่มกลิ่นชิปไม้โอ๊คมิซูนาระเข้าไปนั้น นำมาซึ่งรสชาติที่ล้ำลึก
นอกจากนี้ ยังมีสวนผลไม้หลายแห่งบริเวณถนนผลไม้ใกล้กับโรงบ่มไวน์ จึงมีการผลิตไวน์ผลไม้โดยใช้สตรอว์เบอร์รีและบลูเบอร์รี่ที่เก็บเกี่ยวได้จากที่นั่น กากไวน์ใช้ทำเป็นปุ๋ยหมักและนำไปใช้ในฟาร์มผลไม้อีกด้วย
จำนวนการผลิตไวน์อยู่ที่ 50,000 ขวดต่อปีซึ่งไม่มากนัก แต่ที่นี่ก็เป็นโรงบ่มไวน์ที่โดดเด่นซึ่งมีประวัติการชนะรางวัลต่างๆ มากมายจากการแข่งขันไวน์ของญี่ปุ่น หากคุณมีโอกาสขอให้ลองไปเที่ยวชมกันดู
<อุซางิดะ ไวนารี่>
ที่อยู่: 3720 ชิโมโยชิดะ เมืองจิจิบุ จังหวัดไซตามะ
การเดินทาง: 30 นาทีโดยรถบัส จากสถานี “ Seibu Chichibu” สายรถไฟ Seibu
เวลาทำการ: 10:00-17:00 น.
วันหยุดประจำ: วันจันทร์
URL: https://chichibu-ff.com/en/
*กรุณาสอบถามที่โรงบ่มไวน์เกี่ยวกับการทัวร์ฟาร์ม/โรงงาน
*สำหรับการเข้าชม การชิม และทัวร์โรงงานไม่มีค่าใช้จ่าย
อาหารอิตาเลี่ยนมื้อกลางวันที่เข้ากับไวน์ได้เป็นอย่างดี
<Tourist Table Kamanoue Chichibu Usigida Shokudo>(ปิดอยู่ในขณะนี้)
ใกล้กับโรงบ่มไวน์อุซางิดะ ไวนารี่ มีร้านอาหารชื่อ “Tourist Table Kamanoue Chichibu Usigida Shokudo”
ในพื้นที่อันกว้างขวางและเปิดโล่งพร้อมเพดานสูง คุณสามารถเพลิดเพลินกับเมนูหลากหลายที่ใช้ส่วนผสมและวัตถุดิบมากมายจากจิจิบุที่เข้ากันได้ดีกับไวน์
คุณสามารถเพลิดเพลินกับเมนูคอร์สอาหารอิตาเลียนต้นตำรับของเชฟ รวมถึงไวน์จากอุซางิดะ ไวนารี่
มาทำร่างกายมีสุขภาพดีและสวยงามจากภายในสู่ภายนอกไปพร้อมๆกับการทานอาหารหมักแสนอร่อยจากจิจิบุ เช่น จานรวมชีสหลากชนิดที่ผลิตจาก “Chichibu Yamanami Cheese Factory,” ที่อยู่ใกล้เคียง สลัดเนื้ออบ (Roast Beef) ซึ่งเป็นเนื้อวากิวผลิตในไซตามะ และเจลาโต้โฮมเมดที่ทำจากส่วนผสมที่คัดสรรมาอย่างดีจากจิจิบุ มีสุขภาพดีและสวยงามจากภายในสู่ภายนอก
ร้านค้าของโรงบ่มไวน์อุซางิดะ ไวนารี่ที่อยู่ติดกันจำหน่ายไวน์หลากหลายชนิด รวมถึงมีมุมที่คุณสามารถชิมไวน์ได้ฟรี อย่าพลาดไวน์ที่ผลิตพิเศษในจำนวนจำกัด!
<Tourist Table Kamanoue Chichibu Usigida Shokudo>(ปิดอยู่ในขณะนี้)
ที่อยู่: 3942 ชิโมโยชิดะ เมืองจิจิบุ จังหวัดไซตามะ
การเดินทาง: 40 นาทีโดยรถบัส จากสถานี “Seibu Chichibu” สายรถไฟ Seibu
เวลาทำการ: 11:00-16:00 น. (รับออเดอร์สุดท้าย 15:00 น.) *ร้านค้า 10:00-17:00 น.
วันหยุดประจำ: วันจันทร์
URL: https://north.co.jp/tourist-table/
* เนื่องจากในภาพเป็นเมนูอาหารอิตาเลียนแบบพิเศษจึงจำเป็นต้องจองล่วงหน้า กรุณาเช็คที่เว็บไซต์สำหรับเมนูปกติ
เพลิดเพลินกับรสชาติของไวน์บอร์โดแท้ๆที่จิจิบุ
<จิจิบุไวน์>
คุณเก็นซาคุ อาซามิ ผู้ก่อตั้งจิจิบุไวน์ มีความคิดว่าคนญี่ปุ่นจะกินเนื้อสัตว์มากขึ้นในอนาคต และได้เริ่มทำไวน์ที่เข้ากับอาหารประเภทเนื้อสัตว์ได้ดี เขาเริ่มวางขายไวน์ในปี 1940 แต่ดูเหมือนว่าจะขายได้ไม่มากนักในตอนแรก
บาทหลวงชาวฝรั่งเศสที่มาเยือนพื้นที่แห่งนี้ในปี 1959 ได้ดื่มไวน์ที่คุณเก็นซาคุผลิตขึ้น และกล่าวคำชมเชยว่า “นี่คือรสชาติของบอร์โด” จากคำยกย่องนั้นทำให้ไวน์ได้รับความนิยมและกลายเป็นไวน์ที่เป็นตัวแทนของจิจิบุ
ด้วยคำขวัญตั้งแต่เริ่มก่อตั้งที่ว่า “หมักองุ่นที่ปลูกด้วยแสงแห่งดวงอาทิตย์ ปล่อยให้องุ่นได้พักอย่างเต็มที่ และทำไวน์ที่ดีต่อสุขภาพ” เขาให้ความสำคัญกับสิ่งต่างๆ ตั้งแต่การวางหินปูนจากภูเขาบุโคะในสวนองุ่น การปรับปรุงการระบายน้ำไปจนถึงการทำดิน
ไวน์ที่ผลิตตามแนวคิดของไวน์เพื่อเพลิดเพลินกับมื้ออาหารนั้น โดดเด่นด้วยรสชาติของไวน์ที่เข้ากันได้ดีกับอาหารและได้รับรางวัลมากมาย เช่น ได้รับรางวัลเหรียญทองจากการแข่งขัน Japan Wine Competition หลายครั้ง นอกจากนี้ยังมีไวน์หลากหลายชนิด ซึ่งนอกจากผลิตภัณฑ์มาตรฐานแล้วยังมีไวน์รสชาติดั้งเดิมแท้ๆ ที่ผ่านการบ่มอย่างพิถีพิถัน เช่น ไวน์ Kyoho และไวน์ Sur Lie ซึ่งบ่มพร้อมกับกากเพื่อเพิ่มรสชาติ
ที่จิจิบุไวน์คุณจะได้ฟังเรื่องราวเกี่ยวกับวิธีการเพาะปลูกที่แตกต่างกันไปแต่ละสายพันธุ์ในไร่องุ่นที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ และความเฉลียวฉลาดในกระบวนการต่างๆ ไปจนถึงการบรรจุขวดภายในโรงงาน นอกจากนั้นคุณจะได้เรียนรู้ถึงลักษณะเฉพาะของรสชาติไวน์แต่ละชนิด และสามารถเลือกไวน์ที่คุณชื่นชอบในขณะที่ดื่มและเปรียบเทียบรสชาติ
<จิจิบุไวน์>
ที่อยู่: 41 เรียวคามิซุซุกิ เมืองโอกาโนะ เขตจิจิบุ จังหวัดไซตามะ
การเดินทาง: 45 นาทีโดยรถบัสจาก “สถานี Seibu Chichibu” สาย Seibu Railway หรือ “สถานี Chichibu” สาย Chichibu Railway ลงที่ “Ogano Shako” และเดิน 12 นาที
เวลาทำการ: 8:30-17:00 น. (ไม่รวมวันหยุดสิ้นปีและวันขึ้นปีใหม่)
URL: http://chichibuwine.co.jp/
*ต้องจองล่วงหน้าสำหรับการเข้าชมโรงงาน
*มีแผ่นพับ (ภาษาญี่ปุ่นและภาษาอังกฤษเท่านั้น)
มาลองทำมิโซะกันดูไหม?
<Araibuhei Shoten>
สถานที่สุดท้ายที่ฉันเราอยากแนะนำคือร้านมิโซะที่ชื่อว่า “Araibuhei Shoten”
คุณสามารถเยี่ยมชมโรงงานมิโซะและสัมผัสประสบการณ์การทำมิโซะได้ที่นี่
ในญี่ปุ่นมีสุภาษิตที่เกี่ยวข้องกับซุปมิโซะอยู่หลายสำนวน เช่น “ซุปมิโซะช่วยให้แพทย์ห่างไกล” และ “ซุปมิโซะฆ่าพิษในตอนเช้า” ซึ่งหมายความว่า “ถ้าคุณดื่มซุปมิโซะ มันจะช่วยรักษาสุขภาพและมีโอกาสเจ็บป่วยน้อยลง”
ส่วนผสมของมิโซะนั้นง่ายมาก ซึ่งมีถั่วเหลือง ข้าว เกลือ และน้ำ ถั่วเหลืองอุดมไปด้วยโปรตีนจากพืชและมีกรดอะมิโนที่จำเป็นในการควบคุมสภาพร่างกาย การหมักถั่วเหลืองและกินในรูปแบบมิโซะแทนที่จะกินถั่วเหลืองเองนั้นจะทำให้สารอาหารในถั่วเหลืองย่อย ดูดซึมได้ง่ายและดีต่อสุขภาพของคุณ ปริมาณเกลือในมิโซะจะอยู่ที่ประมาณ 11 ถึง 12% และเมื่อทำเป็นซุปมิโซะ ปริมาณเกลือจะลดลงเหลือไม่กี่เปอร์เซ็นต์ จึงไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับปริมาณเกลือที่มากเกินไป
ในระหว่างการเยี่ยมชมโรงงานที่นี่ คุณสามารถชมโรงงานไปพร้อมฟังคำอธิบายเกี่ยวกับกระบวนการผลิตมิโซะในโรงหมักมิโซะซึ่งมีการควบคุมอุณหภูมิและสุขอนามัยอย่างเคร่งครัด คุณสามารถดูอุปกรณ์ที่ใช้ความรู้ด้านการทำมิโซะซึ่งได้รับการฝึกฝนมาหลายปี โดยสามารถเห็นได้ที่นี่เท่านั้น มีการจัดแสดงถังไม้ขนาดใหญ่ (ความจุ 5,600 ลิตร) ที่ใช้ทำมิโซะในสมัยก่อนอีกด้วย
สำหรับประสบการณ์การทำมิโซะแบบแฮนด์เมดที่คุณสามารถสัมผัสได้ที่นี่นั้น คุณจะได้เพลิดเพลินกับกลิ่นของถั่วเหลืองนึ่งร้อนๆ การบดถั่วเหลืองต้ม และการผสมโคจิกับเกลือด้วยมือ นี่เป็นประสบการณ์อันมีค่าที่คุณจะได้ใช้ประสาทสัมผัสทั้งห้า เนื่องจากเป็นการสัมผัสประสบการณ์ในขณะที่ฟังคำอธิบายไปด้วย ทำให้ผู้ที่ทำเป็นครั้งแรกก็สามารถเพลิดเพลินได้อย่างสบายใจ
การทำมิโซะต้องใช้ระยะเวลาการบ่มเป็นเวลาหลายเดือนตั้งแต่บรรจุในภาชนะจนถึงเวลารับประทาน กล่าวกันว่ามิโซะจะเข้าสู่สภาวะการหมักเมื่ออุณหภูมิสูงกว่า 15 องศา หัวเชื้อโคจิที่อยู่ในมิโซะยังคงมีชีวิต ให้รสชาติและกลิ่นที่เปลี่ยนไปตามระยะเวลาการหมัก ระหว่างรอเวลาที่ดีที่สุดในการนำไปรับประทานอาหาร การลองคิดว่าจะใส่เครื่องอะไรบ้างลงในมิโซะซุปที่จะทำโดยใช้มิโซะที่คุณทำเองกับมือก็เป็นสิ่งที่น่าสนุกไม่น้อย ลองมาทำซุปมิโซะในแบบของคุณเองดูไหม?
ที่ Arai Buhei Shoten ยังจำหน่ายมิโซะเซมเบ้แบบสมัยเก่าอีกด้วย ดังนั้นขอให้ลองมาเพลิดเพลินกับรสชาติของมิโซะกันได้ที่นี่
<Araibuhei Shoten>
ที่อยู่: 573-2 โออะซะ มินาโนะ, เมืองมินาโนะ, เขตจิจิบุ จังหวัดไซตามะ
การเดินทาง: เดิน 11 นาทีจากสถานี “Minano” สายรถไฟ Chichibu
เวลาทำการ: 9:00-17:00 น
URL: http://www.chichibu-miso.jp
* โปรดติดต่อสอบถามเกี่ยวกับรายละเอียดของประสบการณ์การทำมิโซะ
คิดเห็นอย่างไรกันบ้างเกี่ยวกับประสบการณ์การหมักในจิจิบุที่เรานำเสนอในครั้งนี้?
เนื่องจากจิจิบุมีสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติ ภูมิอากาศ และวัฒนธรรมที่อุดมสมบูรณ์ คุณจึงสามารถเพลิดเพลินกับอาหารหมักต่างๆ เช่น ไวน์ มิโซะ และชีส ที่คุณไม่สามารถลิ้มรสได้จากที่อื่น
เพื่อทำความรู้จักกับจิจิบุให้ดียิ่งขึ้น เราขอแนะนำให้คุณมาลองชิมและสัมผัสอาหารหมักซึ่งสืบทอดต่อกันมาในพื้นที่นี้ตั้งแต่สมัยโบราณ ความสนุกอีกอย่างคือการได้ซื้อของฝากที่แนะนำโดยแต่ละร้านและลองชิมรสชาติหลังจากซื้อกลับบ้าน
พื้นที่จิจิบุเป็นสถานที่ไม่ควรพลาดไปเยี่ยมชมในครั้งต่อไปที่คุณมาเยือนญี่ปุ่น ไม่ว่าจะเป็นโรงบ่มไวน์ที่มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร ร้านอาหารที่คุณสามารถเพลิดเพลินกับอาหารจานอร่อยทำจากวัตถุดิบในท้องถิ่นที่เข้ากันได้ดีกับไวน์ และร้านค้าที่คุณสามารถสัมผัสประสบการณ์การหมักได้ เลือกสถานที่ที่คุณชื่นชอบและมาสัมผัสกับวัฒนธรรมการหมักที่เหมาะกับคุณ รับรองว่ามันจะเป็นทริปที่น่าจดจำอย่างแน่นอน