• 

• 

 

เมื่อมาเยือนโตเกียว ไม่มีวิธีใดที่จะได้สัมผัสกับรสชาติของเอโดะแบบดั้งเดิมดีไปกว่าการกว่าการใช้เวลาวันหรือสองวันในคาวาโกเอะซึ่งอยู่ทางเหนือของเมืองหลวง

 

 

คาวาโกเอะเป็นที่รู้จักกันมานานในชื่อ ‘โคะเอโดะ’ ซึ่งหมายถึง ‘เอโดะน้อย’

 

 

จากสัญลักษณ์ของคุณสมบัติทางสถาปัตยกรรมตั้งแต่สมัยเอโดะ

ในอดีตอาคารหลายหลังใช้ไม้ซึ่งมักก่อให้เกิดไฟไหม้รุนแรงซึ่งก็ไม่ต่างจากในคาวาโกเอะ

ในปี 1893 เกิดเพลิงไหม้ครั้งใหญ่ซึ่งทำลายหนึ่งในสามของเมืองไป

 

 

หลังจากนั้น พ่อค้าจำนวนมากก็เริ่มสร้าง “คุระ” ขึ้นมา ”คุระ” มีสถาปัตยกรรมช่วยกันไฟที่สร้างขึ้นอย่างชาญฉลาดเพื่อป้องกันไฟไหม้ และได้รับการพัฒนาให้เป็นรูปแบบบ้านสำหรับพ่อค้าชาวเอโดะ อีกทั้งยังช่วยป้องกันผู้บุกรุกได้ดียิ่งขึ้นอีกด้วย คุระเป็นอาคารที่มีกำแพงดินเหนียวหนา มักออกแบบตามสถาปัตยกรรมสไตล์เอโดะที่ชัดเจน การสร้างนั้นมีค่าใช้จ่ายราคาแพงอย่างมาก มีเพียงพ่อค้าที่ร่ำรวยที่สุดเท่านั้นที่สามารถสร้างได้

• 

• 

 

ที่ชั้นบนจะพบกับส่วนของพื้นเสื่อทาทามิแบบดั้งเดิมที่คุณสามารถนั่งบนเบาะรองนั่งรอบโต๊ะระดับต่ำในระหว่างวันหรือนอนบนฟูกนุ่มๆในตอนกลางคืน มีหน้าต่างบานใหญ่หลายบานที่เปิดรับแสงอย่างเต็มที่ ทำให้ห้องรู้สึกสบายอย่างมาก หากมีเวลาว่างลองพับกระดาษโอริกามิเล่นหรือผ่อนคลายบนเสื่อทาทามิกันให้เพลิดเพลิน ที่ชั้นบนสามารถวางฟูกนอนได้ 5 คนในห้องเดียวกัน

 

บนชั้นหลักของอาคารที่อยู่ติดกันมีโต๊ะไม้ขนาดใหญ่ ซึ่งมิซาโกะเจ้าของบ้านจะเสิร์ฟอาหารเช้าสไตล์ญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมให้กับแขกทุกคนที่อยากลองทาน นอกจากนี้ยังมีชุดลิ้นชักแบบดั้งเดิมใต้บันไดและของเก่ามากมายอยู่ภายในห้อง

 

เมื่อมาถึงที่นี่ครั้งแรก คุณจะได้รับการต้อนรับจากเจ้าบ้านมิซาโกะ หากมีสิ่งใดที่คุณอยากรู้เกี่ยวกับคุระหรือคาวาโกเอะ โปรดอย่าลังเลที่จะถามเพราะเจ้าบ้านยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะแบ่งปันความลับของท้องถิ่นทั้งหมด เพื่อให้แน่ใจว่าคุณจะมีการเดินทางที่น่าจดจำที่สุด ไม่ว่าต้องการค้นหาร้านอาหารเฉพาะหรือซื้อของที่ระลึกกลับบ้าน เจ้าบ้านก็สามารถให้คำแนะนำได้มากมาย

• 

• 

 

เกสต์เฮาส์ ชะบุได

 

เดินไม่ไกลจากสถานที่ท่องเที่ยวหลักในคาวาโกเอะนัก คุณจะพบกับเกสต์เฮาส์ ชะบุได ในย่านโกดังเก่าแก่ บ้านสไตล์พื้นบ้านแบบญี่ปุ่นเก่าที่ได้รับการดัดแปลงหลังนี้มีอายุมากกว่า 100 ปี และเปิดโอกาสให้ผู้มาเยือนและคนในท้องถิ่นได้พบปะสังสรรค์และทำความรู้จักกันมากขึ้น คำว่า ‘chabudai’ หมายถึง ‘โต๊ะอาหารเตี้ย’ และเป็นสถานที่ที่ผู้คนสามารถมารวมตัวกันและสื่อสารกันได้ และนั่นคือสิ่งที่เกสต์เฮาส์ ชะบุได ให้ความสำคัญ

 

ทุกสัปดาห์ทางที่พักจะวางแผนกิจกรรมต่างๆ เพื่อนำผู้คนมารวมตัวกันในบรรยากาศที่เป็นกันเอง

มีห้องพักให้เลือก 3 แบบ ได้แก่ ห้องพักรวมสำหรับ 8 คน ห้องพักหญิงสำหรับ 4 คนซึ่งสามารถจองสำหรับครอบครัวหรือผู้ที่มาเป็นกลุ่มได้ และห้องส่วนตัวสำหรับ 1-3 คน

 

ห้องพักรวมมีเตียงสองชั้นพร้อมผ้าม่านปิดเพื่อความเป็นส่วนตัว เตียงแต่ละเตียงมีปลั๊กเสียบส่วนตัว พอร์ต USB และไฟ

• 

 

＜เกสต์เฮาส์ ชะบุได＞

ที่อยู่: 1-14 ซันคุโบโจ เมืองคาวาโกเอะ จังหวัดไซตามะ

โทร: 049-214-1617

การเดินทาง: เดิน 13 นาทีจาก “สถานี Honkawagoe” บนสาย Seibu Shinjuku, เดิน 15 นาทีจาก “สถานี Kawagoeshi” บนสาย Tobu Tojo Line, เดิน 25 นาทีจาก “สถานี Kawagoe” บนสาย JR และสาย Tobu Tojo

URL： https://chabudai-kawagoe.com/en.html

• 

• 

กิจกรรมพิเศษไม่เหมือนใครที่คาวาโกเอะ

 

วัดคิตะอิน

สำหรับใครที่สนใจในศาสนาหรือประวัติศาสตร์ วัดคิตะอินที่มีประวัติยาวนานกว่า 1200 ปี เป็นจุดแวะพักที่ไม่ควรพลาด เชื่อกันว่าสร้างขึ้นในปี 830 ภายใต้วัดที่มีชื่ออื่น ซึ่งต่อมาถูกแบ่งออกเป็นสามส่วน แต่น่าเสียดายที่ภายหลังถูกไฟไหม้

 

วัดถูกสร้างขึ้นใหม่หลายปีต่อมา จนในปี 1599 วัดคิตะอินก็กลายเป็นวัดหลักของทั้งสามส่วน ในเวลานั้นพระเท็นไค กลายมาเป็นหัวหน้าของวัดและคันจิ (ตัวอักษรจีน) ของวัดเปลี่ยนจาก ‘วัดเหนือ’ เป็น ‘วัดแห่งความสุขมากมาย’ ด้วยการออกเสียงแบบเดียวกัน คุณสามารถพบรูปปั้นของเท็นไคอยู่ภายใน เท็นไคมีมิตรภาพที่แน่นแฟ้นกับโทคุงาวะ อิเอยาสึ และทั่วทั้งวัดคุณจะพบความเชื่อมโยงมากมายกับครอบครัวโทคุงาวะ สิ่งที่น่าประทับใจที่สุดคือการเลือกห้องต่างๆ

 

ที่นำมาจากปราสาทเอโดะก่อนที่ปราสาทจะถูกทำลายและกลายเป็นเพียงเศษซากของปราสาทเท่านั้น เชื่อกันว่าห้องที่น่าประทับใจที่สุดคือห้องที่โทคุงาวะ อิเอมิตสึ (โชกุนที่ 3) เกิด เพดานได้รับการตกแต่งอย่างสูงด้วยลวดลายดอกไม้และได้รับการจัดวางในลักษณะที่อาจดูเหมือนเมื่อโชกุนใช้งานอยู่

• 

• 

 

เรียวเท ยามายะ

 

การเดินทางไปญี่ปุ่นคงจะไม่สมบูรณ์แบบหากขาดอาหารญี่ปุ่นดั้งเดิมไป วัตถุดิบอันหรูหราตามฤดูกาลที่คัดสรรมาอย่างดีและนำเสนออย่างมีศิลปะ อาหารดั้งเดิมของญี่ปุ่นแต่เดิมเป็นอาหารง่ายๆ ที่ปรุงจากผักเท่านั้น แต่เมื่อเวลาผ่านไปหลายปี อาหารก็เปลี่ยนเป็นอาหารมื้อใหญ่ที่เต็มไปด้วยผัก ปลา เนื้อสัตว์ และผลไม้ เต็มไปด้วยส่วนผสมหลายประเภทและใช้เวลาในการเตรียมค่อนข้างนาน หากต้องการลองอาหารญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมที่ไม่เหมือนใครโดยไม่ต้องเสียเงินจำนวนมาก เราขอแนะนำอาหารกลางวันแบบกล่องที่เรียวเท ยามายะ

 

อาหารกลางวันเหล่านี้เต็มไปด้วยส่วนผสมแบบญี่ปุ่นดั้งเดิมซึ่งเป็นตัวแทนของฤดูกาลปัจจุบัน และปรุงด้วยความอุตสาหะด้วยความหวังว่าจะเป็นที่ชื่นชอบโดยทำให้แขกทุกคนที่มาเยือนได้อิ่มทั้งท้องและสายตา อาหารกลางวันแต่ละกล่องมาพร้อมกับข้าว ซุป ปลา ผักดอง ผักปรุงสุก และไข่ม้วน

• 

• 

 

สวนทันโทคุ

 

เมื่อคุณมาในย่านนี้ อย่าลืมแวะมาที่สวนทันโทคุและพักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติอันแสนผ่อนคลาย บ้านหลังนี้สร้างขึ้นในปี 1901 โดยเป็นบ้านของพ่อค้าไม้และยังคงรักษาเสน่ห์ของยุคเมจิเอาไว้อย่างดี ห้องพักหลายห้องมีประตูบานเลื่อนแบบดั้งเดิม พื้นเสื่อทาทามิ และตกแต่งด้วยเครื่องตกแต่งตามฤดูกาล สวนนี้มีอายุเก่าแก่กว่า 150 ปี และได้รับการออกแบบโดยใช้หิน ต้นไม้ และน้ำ เพื่อสร้างภูมิทัศน์ขนาดเล็ก ภายในสวนยังมีศาลเจ้าเล็กๆ ที่สร้างขึ้นเมื่อกว่า 100 ปีที่แล้วอีกด้วย และสิ่งอำนวยความสะดวกที่รวมแผนที่พักพร้อมอ่างอาบน้ำกลางแจ้งและแพลนงานแต่งงาน

 

หากเคยต้องการเข้าร่วมพิธีชงชาญี่ปุ่นแต่ไม่มีโอกาสหรือไม่มีเวลา ก็สามารถทำให้ความปรารถนานั้นเป็นจริงได้ โดยที่นี่ได้นำเสนอประสบการณ์ชาเขียวประเภทต่างๆ (พร้อมของหวานที่แตกต่างกัน) และยังมีโอกาสได้ชงชามัทฉะด้วยตนเองภายใต้การแนะนำของอาจารย์ผู้สอนที่มากประสบการณ์

• 

• 

เพนนี แคนดี้ เลน

 

คาวาโกเอะเป็นที่ตั้งของถนนเพนนีแคนดี้เลน (คาชิยะ โยโคโช) ซึ่งจะได้พบกับร้านขายขนมเล็กๆที่เรียงรายเป็นแถวและขายลูกอมแข็งแบบดั้งเดิม ของหวานทำจากมันเทศ ข้าวเกรียบ และขนมอื่นๆ มากมาย พื้นที่เล็กๆ แห่งนี้ยังได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งใน 100 กลิ่นอายของทัศนียภาพชั้นนำของญี่ปุ่นอีกด้วย ร้านค้าหลายแห่งมักทำขนมของพวกเขาหลังหน้าต่างบานใหญ่เพื่อให้ผู้มาเยี่ยมชมได้ชมกระบวนการทำ ณ

 

ที่แห่งนี้ประสาทสัมผัสของคุณจะถูกผสมอยู่ในอาหารที่มีสีสันสดใสและกลิ่นหอมหวานหรือเค็ม ของหวานส่วนใหญ่มีราคาไม่แพงและมีจำหน่ายในปริมาณน้อย ดังนั้นจึงสามารถลิ้มลองขนมต่างๆ ได้หลากหลายแบบ ลูกอมแข็งบางชนิดมีสีสันสดใสหรือมีใบหน้าของตัวละครที่มีชื่อเสียงอยู่ภายใน เช่น เทพเจ้าแห่งโชคลาภทั้งเจ็ด ขณะที่เดินผ่านเมืองคุณอาจสังเกตเห็นป้ายบอกทางมากมายเกี่ยวกับขนมมันเทศหลากหลายชนิด ซึ่งคุณสามารถลองรับประทานได้ที่นี่เช่นกัน ถ้าใครที่ชอบถั่วแดงและมันเทศ อย่าลืมลอง ‘imokoi’ ซึ่งเคลือบด้วยโมจิ (แป้งข้าวเจ้า) และทำให้อุ่น ไม่ว่าคุณจะชอบรสชาติแบบไหน ก็มีของอร่อยให้ค้นหาได้ที่นี่

• 

• 

คะชิจิ

 

ขณะเดินทางในญี่ปุ่น คุณคงเคยเห็นและอาจได้ลิ้มรสขนมวากาชิแบบดั้งเดิมของญี่ปุ่นที่ทำจากแป้งข้าวเจ้าที่ปั้นเป็นรูปดอกไม้หรือวัตถุต่างๆ ที่เป็นตัวแทนของแต่ละฤดูกาล

 

ที่คะชิจิ คุณจะมีโอกาสได้สัมผัสการทำขนมวากาชิภายใต้การแนะนำของช่างฝีมือที่มีทักษะสูง ชั้นเรียนเหล่านี้มีทั้งผู้ใหญ่และเด็กในโรงเรียน ดังนั้นหากคุณเดินทางไปกับครอบครัวหรือเพื่อนฝูง กิจกรรมดีๆเหล่านี้เป็นสิ่งที่ควรลองทำร่วมกัน

 

ชั้นเรียนเปิดสอนในช่วงสุดสัปดาห์และในช่วงวันหยุดนักขัตฤกษ์ โดยใช้เวลาประมาณ 45 นาที หากไม่มีเวลาว่างหรืออยากจะซื้อของที่ทำขึ้นโดยมืออาชีพ ลองดูของที่วางขายบนเคาน์เตอร์สำหรับของหวานประจำฤดูกาล พวกเขายังวางขายขนมมันเทศมากมาย เช่น มันเทศแท่ง (มีให้เลือกหลายรสชาติ) และมันเทศโยกัง สามารถเช็คดูที่เว็บไซต์เพื่อจองประสบการณ์การทำขนมวากาชิ หรือลองเดินดูผลิตภัณฑ์ต่างๆได้เช่นกัน

• 

• 

ศาลเจ้าคาวาโกเอะฮิคาวะ

 

ศาลเจ้าคาวาโกเอะฮิคาวะเป็นที่นิยมอย่างมากในหมู่ผู้หญิงเพราะมีความเกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์และครอบครัว มีการประดิษฐานเทพเจ้าสองคู่ที่นี่ทำให้ศาลเจ้าแห่งนี้เป็นสถานที่สำคัญในการอธิษฐานขอให้โชคดีในความสัมพันธ์และความสุขในครอบครัว

ขณะเยี่ยมชมคุณสามารถซื้อแผ่นคำอธิษฐานเพื่อเขียนคำอธิษฐานและแขวนไว้ที่ศาลเจ้าหรือซื้อเครื่องรางเพื่อพกติดตัวเพื่อดึงดูดความรักและความสุข

ในช่วงฤดูร้อน มีงานกระดิ่งลมขนาดใหญ่ที่จัดขึ้นโดยมีกระดิ่งลมสีสันสดใสกว่า 2,000 ชิ้น แขวนไว้ตามอุโมงค์ มักกล่าวกันว่าความคิดและความปรารถนาของผู้คนสามารถพัดพาไปตามสายลมได้ ยังมีการเปิดไฟประดับให้กระดิ่งลมได้สว่างไสวในเวลากลางคืน

ดังนั้นไม่ว่าจะไปในตอนกลางวันหรือตอนกลางคืน คุณก็จะพบกับการภาพที่น่าตื่นตาตื่นใจทั้งภาพและเสียง

 

＜ศาลเจ้าคาวาโกเอะฮิคาวะ＞

ที่อยู่: 2-11-3 มิยาชิตามาจิ เมืองคาวาโกเอะ จังหวัดไซตามะ

โทร: 049-224-0589

การเดินทาง: ลงที่ “สถานี Kawagoe” บนสาย JR หรือสาย Tobu Tojo และลงที่

“Hikawa Shrine Mae” โดยรถบัสประจำทาง  ลงที่ “สถานี Honkawagoe” บนสาย Seibu Shinjuku และลงที่ ” Hikawa Shrine Mae” โดยรถบัส

เดิน 20 นาทีจาก “สถานี Honkawagoe” บนสาย Seibu Shinjuku

URL： https://th.chocotabi-saitama.jp/spot/20490

相關文章： https://th.chocotabi-saitama.jp/magazine/11

• 

ประสบการณ์แต่งชุดกิโมโน

สำหรับประสบการณ์ที่จะอยู่กับคุณไปตลอดชีวิต ทำไมไม่ลองเดินไปรอบ ๆ เมืองในชุดกิโมโนให้เช่าดูล่ะ มีผู้คนมากมายจากทั่วทุกมุมโลกที่ใช้ประโยชน์จากโอกาสนี้ในการสวมใส่เสื้อผ้าญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม ในขณะที่รายล้อมไปด้วยอาคารแบบดั้งเดิมในพื้นที่ที่เข้าถึงได้ง่าย ร้านค้าบางแห่งเสนอส่วนลดให้กับผู้ที่สวมชุดกิโมโนอีกด้วย ร้านเช่าชุดกิโมโนส่วนใหญ่มีหลากหลายสไตล์และสีให้เลือกได้ตามชอบใจ รวมถึงกระเป๋าถือที่เข้ากันกับชุด บางร้านเสนอให้ฝากเสื้อผ้าไว้ที่ร้านในขณะออกไปเดินเล่นในเมือง จึงไม่ต้องกังวลกับการพกทุกอย่างติดตัวไปด้วย

อย่าลืมจองแพลนเช่าชุดกิโมโนก่อนเดินทางไป

* รายละเอียดแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับแต่ละร้าน

相關文章１ ： https://th.chocotabi-saitama.jp/magazine/43

相關文章２ ：https://th.chocotabi-saitama.jp/magazine/27

หากคุณต้องการออกเดินทางกลับสู่ญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมโดยไม่ต้องเดินทางไกล คาวาโกเอะเป็นสถานที่ที่ยอดเยี่ยมสำหรับคุณ มีหลายตัวเลือกในการเดินทางจากจากโตเกียวไปยังคาวาโกเอะ และส่วนใหญ่ใช้เวลาเดินทางน้อยกว่าหนึ่งชั่วโมงโดยรถไฟ เมื่อเดินทางมาถึงแล้ว คุณสามารถเดินไปรอบ ๆ เมืองได้อย่างง่ายดาย หรือจะขึ้นรถบัสวนรอบเมืองสไตล์เรโทรเพื่อเยี่ยมชมสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงทั้งหมดได้อย่างสะดวกสบาย

 

เพลิดเพลินไปกับโอกาสครั้งหนึ่งในชีวิตที่จะได้อยู่ในคุระ (โกดัง) แบบญี่ปุ่นดั้งเดิม และเดินเเล่นที่ “ลิตเติ้ลเอโดะ” ในชุดกิโมโน หรือเพียงแค่ดื่มด่ำกับภาพ เสียง และกลิ่นของภูมิทัศน์เมืองประวัติศาสตร์แห่งนี้